Dek M.403pk

นายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ตำรวจ แถลงข้อสรุปผลการตรวจสอบกรณีที่นายส่งเสริม แสงฤทธิ์ ร้องให้ตรวจสอบเรื่องนายไพโรจน์ แสงฤทธิ์ ซึ่งเป็นบุตรชายถูกตำรวจจังหวัดสกลนครยิงเสียชีวิตและยัดยาบ้าโดยไม่เป็นธรรม ว่า จากการตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นได้ข้อสรุป คือ เจ้าหน้าที่ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ เพราะการขยายผลตรวจค้นจับกุมไม่เป็นไปตามหลักปฏิบัติของกฎหมาย ทั้งนี้ยังขัดหลักนิติธรรมและรัฐธรรมนูญ นอกจากนั้นแล้วในส่วนกรณียาบ้าที่พบหลังจากที่นายไพโรจน์ถูกยิงเสียชีวิต พบพิรุธและคาดว่าจะนำมาวางใกล้ตัวผู้ตายภายหลัง ซึ่งข้อสรุปของกมธ.การตำรวจจะส่งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อดำเนินการไต่สวนพร้อมกับจะนำเสนอรายงานดังกล่าวให้กับที่ประชุมสภาฯ ได้รับทราบ

"ผมยอมรับว่าผลการตรวจสอบของกรรมาธิการไม่ส่งผลในทางปฏิบัติที่จะหาตัวบุคคลที่ทำผิดมาลงโทษได้ เพราะอำนาจการลงโทษเป็นในส่วนของศาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ" นายสมชาย กล่าว

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาราชการโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวถึงกรณีที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยนางพนิตา กำภู ณ อยุธยา ปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมฯ หลังจากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้นางพนิตา ไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และตั้งแต่งนายวิเชียร ชวลิต ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมฯแทนว่า เป็นกระบวนการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย อันเกิดเนื่องมาจากวิธีการบริหารงาน และการปฏิบัติราชการ ซึ่งมีคณะกรรมการสงสัยว่าจะมีปัญหาบางประการ จึงมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย

นายอนุสรณ์ กล่าวว่า เมื่อกระบวนการสอบสวนทางวินัยแล้วเสร็จ อาจจะไม่มีการกระทำความผิดใดๆหรือมีผลของกระทำผิดก็จะแจ้งให้ทราบ แต่ ณ วันนี้การตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยเป็นการตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยในเรื่องของปัญหาการบริหารงาน หรือการบริหารในกระทรวง และการตั้งคณะกรรมการสอบวินัย ก็เพื่อเป็นการให้ความเป็นธรรมกับผู้ที่ถูกกล่าวหาซึ่งจะมีการกระบวนการสอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป 

"ในช่วงที่เกิดปัญหาอุทกภัย กระทรวงพัฒนาสังคมฯ ก็เป็นกระทรวงหลักในการช่วยขับเคลื่อนปัญหา นางพนิตาก็มีผลงานที่ดี แต่เข้าใจว่า คงมีรายละเอียดในเรื่องของบางโครงการ ที่นำไปสู่ของการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย ส่วนกรณีที่นายพนิตาจะร้องเรียนคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม ก.พ.ค.นั้น เป็นสิทธิและเคารพสิทธินางพนิตา แต่ทั้งหมดอยากให้รอฟัง คณะกรรมการสอบสวนทางวินัยก่อน เพราะถือเป็นการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างเป็นทางการ และพร้อมจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งนางพนิตาสามารถร้องเรียนได้อย่างเต็มที่อยู่แล้ว และหาผลสอบพบว่าไม่มีความผิด ก็พร้อมจะคืนความเป็นธรรมให้ โดยอาจจะหาตำแหน่งที่เหมาะสมให้" นายอนุสรณ์ กล่าว

นายอนุสรณ์ กล่าวว่า การที่นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.พัฒนาสังคมฯ ต้องตั้งคณะกรรมการสอบ เพราะมีการร้องเรียนมา และจะสุ่มเสี่ยงต่อการละเว้นต่อการปฏิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ซึ่งหากนางพนิตายังนั่งในตำแหน่ง ปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมฯ ก็จะทำให้เป็นอุปสรรคต่อการสอบสวน จึงต้องให้ออกจากตำแหน่งไว้ก่อน ส่วนจะกลับมาตำแหน่งเดิมหรือไม่ ก็จะดูความเหมาะสมในอนาคตต่อไป"

ที่ กองบังคับการปราบปรามการการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมและสิ่งแวดล้อม หรือ ปทส. เมื่อเวลา 10.00 น.นายเอกณัฐ พร้อมพันธ์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เข้ายื่นหนังสือต่อพนักงานสอสวน กรณีการขุดเจาะปิโตเคมีในพื้นที่เขตทวีวัฒนา เนื่องจากมีประชาชนได้ยื่นหนังสือร้องเรียนเข้ามายังพรรคประชาธิปัตย์ ให้ระงับโครงการซึ่งก่อนหน้านี้ ทาง ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือต่อกรรมการวุฒิสภาให้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวแล้ว และเมื่อวันที่ 8 มี.ค. ที่ผ่านมา วุฒิสภาได้มีความเห็น ให้ทางกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ และรัฐมนตรีว่าการกระทรงพลังงาน ทบทวนในการขุดเจาะ ปิโตเคมีในเขตทวีวัฒนา เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้อ้างว่าได้ทำตามขั้นตอนและพร้อมยืนยันจะดำเนินการต่อไปโดยระบุว่าการขุดเจาะดังกล่าวไม่ขัดต่อ พ.ร.บ.ปิโตเลี่ยมและพ.ร.บ.สิ่งแวดล้อม

นายเอกณัฐ กล่าวว่า จากการตรวจสอบในเบื้องต้นมีความเป็นไปได้ว่าบริษัทเอกชนที่ทำการขุดเจาะกระทำผิดและขัดต่อ พรบ. 2 ฉบับ ประกอบด้วย พ.ร.บ.วัตถุอันตรายและพ.ร.บ.โรงงาน ทั้ง2 ฉบับนั้นบัญญัติไว้ชัดเจนในเรื่องของการครอบครองการขนส่งและการกำจัดของเสีย จึงทำให้เชื่อได้ว่า การดำเนินการขุดเจาะปิโตรเลียมในเขตทวีวัฒนานั้นขัดต่อ พรบ. 2 ฉบับนี้อย่างแน่นอน ซึ่งหากพบว่ามีการกระทำผิด เจ้าหน้าที่สามารถใช้อำนาจตามกฏหมายสั่งระงับโครงการขุดเจาะ และมีบทลงโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 1 หมื่นถึง 10 ล้านบาท นอกจากนี้ที่ผ่านมาก็มีประชาชนในพื้นที่ได้เข้าร้องต่อศาลปกครองเพื่อขอระงับโครงการดังกล่าวแล้วและอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาล

HBO ซึ่งเป็นช่องรายการภาพยนตร์ที่ฉายตามเคเบิลทีวี ได้ระงับการถ่ายทำภาพยนตร์ซีรี่ส์ ทางโทรทัศน์เกี่ยวกับม้าเรื่อง ลัค (Luck) แล้ว หลังจากมีม้าตัวหนึ่งได้รับบาดเจ็บเมื่อวันอังคาร และต้องถูกฆ่าเพื่อไม่ให้มันได้รับความทรมาน และนับเป็นม้าตัวที่สามแล้ว ที่ตายในระหว่างการถ่ายทำซีรี่ส์แนวดราม่าเรื่องนี้ และกำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบหาสาเหตุที่เกิดขึ้น 

กลุ่มเคลื่อนไหวด้านมนุษยธรรม อเมริกัน ฮิวแมน แอสโซซิเอชั่น ที่คอยสอดส่องการสร้างภาพยนตร์ในฮอลลีวู้ด ได้เรียกร้องให้ HBO ระงับการสร้างซีรีส์เรื่องนี้ พร้อมระบุว่า ขอยืนยันว่า การหยุดการถ่ายทำครั้งนี้ ยังคงมีผลโดยสมบูรณ์ในระหว่างการสอบสวนที่ครอบคลุม และสมบูรณ์ แต่อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับม้า ไม่ใช่ในระหว่างการถ่ายทำหรือการแข่งขันแต่อย่างใด 

HBO อ้างว่า ม้าตัวที่ตาย ได้ถูกคนเลี้ยงนำไปเข้าลู่วิ่งสำหรับการแข่งขันที่ ซานต้า อนิต้า พาร์ค แต่มันเกิดพยศชูขาหน้าขึ้น ก่อนจะหงายหลังล้มไปเมื่อเช้าวันอังคาร และได้รับบาดเจ็บที่หัว และถูกฆ่าทิ้งตรงที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นช่วงที่ซีรีส์เรื่อง ลัค อยู่ระหว่างการถ่ายทำซีซั่นที่สอง

ซินดี้ ลี นักเต้นระบำเปลื้องผ้าจะลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศส ที่จะมีการเลือกตั้ง
ในเดือนเมษายนนี้ด้วย แต่ยังต้องรอได้รับการรับรองจากนายกเทศมนตรีครบ 500 คนจึงจะมี
คุณสมบัติลงสมัครได้ 

ซินดี้ ลี หรือชื่อจริงว่า อิสซาแบล แลงแกร์ สามารถรวบรวมลายเซ็นรับรองจากนายกเทศมนตรี
ได้แล้ว 42 ชื่อ โดยผู้ที่ลงนามรับรองเธอเป็นคนแรกคือ โรแจร์ ลาบาค นายกเทศมนตรีของเมือง
ตอลลองต์ โดยเขาบอกว่า ทุกคนควรมีโอกาสในการเป็นประธานาธิบดีที่เท่าเทียมกัน และให้
เหตุผลว่าเธอเป็นหญิงสาวที่มีเสน่ห์ อีกทั้งผู้หญิงยังมีโอกาสที่จะล่ารายชื่อได้ยากกว่าผู้ชาย 

แต่เสียงสนับสนุนจากนายกเทศมนตรีได้มาจากการที่นายราชิด เนคคาซ นักธุรกิจชาวฝรั่งเศส 
ได้มอบเช็คเงินสดมูลค่า 1352.50 ยูโร หรือราว 53,000 บาท เพื่อใช้ในงานบริหารเมืองตอลลองต์ 
และนายเนคคาซใช้การซื้อเสียงสนับสนุนครั้งนี้เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงอันตรายของระบบที่กำหนด
ให้ผู้สมัครประธานาธิบดีต้องได้รับการสนับสนุนจากนายกเทศมนตรี 500 คน เพราะไม่เหมาะสม
กับวิถีแห่งประชาธิปไตย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสิทธิสตรี และยังบอกว่า สิ่งที่จะทำให้การแข่งขัน
เป็นไปอย่างยุติธรรม คือการลงชื่อของบรรดาประชาชนคนธรรมดา ที่จะเป็นผู้ตัดสิน ซึ่งเรื่องนี้ลี 
ก็มีความเห็นเหมือนกันว่ามีความเป็นประชาธิปไตยมากกว่า 

ก่อนหน้านี้ เธอเคยพยายามรวมรวบรายชื่อเพื่อลงสมัครเลือกตั้งในปี 2545 และ 2550 แต่ก็ไม่ประสบ
ความสำเร็จ และการรวบรวมให้ได้ 500 รายชื่อให้ได้ภายในวันศุกร์นี้ ซึ่งเป็นกำหนดส่งรายชื่อวัน
สุดท้าย ก็มีความเป็นไปได้ยากเช่นกัน 

การเลือกตั้งจะมีขึ้น 2 รอบ คือ ในวันที่ 22 เมษายน และ 6 พฤษภาคม

เมื่อวันที่ 14 มี.ค.2555 เวลา 10.00 น. ที่สำนักโหรมนตรีพุ่มทิพย์ หรือ อ.อ๊อด เลขที่ 58 ถนนผ้าขาว เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นสำนักสักยันต์ชื่อดังของภาคอีสาน พบว่าบรรดาลูกศิษย์กำลังจัดเตรียมสถานที่เพื่อใช้ในการประกอบพิธีไหว้ครูใหญ่ ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 16 - 17 มี.ค.55 นี้ และมีบรรดาลูกศิษย์ในภาคต่างๆทยอยเดินทางไปร่วมจัดสถานที่

ในเวลาดังกล่าวปรากฏว่า มี นายภาคิน คำวิลัยศักดิ์ หรือโตโน่ เดอะสตาร์ 6 นักร้อง นักแสดงชื่อดัง ซึ่งเดินทางมาด้วยรถเบนซ์ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน กก 44 ขอนแก่น พร้อมครอบครัวและผู้จัดการส่วนตัว ได้เข้าไปกราบ โหรมนตรี พุ่มทิพย์ หรือ อ.อ๊อด ท่ามกลางความฮือฮาของลูกศิษย์และประชาชนที่ร่วมเตรียมงาน

โตโน่ เดอะสตาร์ ซึ่งแต่งตัวเรียบง่ายสวมเสื้อแจ๊กเก็ตสีดำแดง กางเกงยีนส์ขาสั้น ได้เดินทักทายแฟนคลับจากนั้นได้ขึ้นไปกราบอาจารย์ ซึ่ง อ.อ๊อด ได้ทำการครอบครูโดยใช้เศียรของพระพิฆเนศเพื่อเป็นสิริมงคลและไถ่ถามสารทุกข์สุขดิบ

โดยโตโน่ ได้เปิดเผยว่า ตนเองเป็นลูกศิษย์ของ อาจารย์อ๊อด ตั้งแต่ยังไม่เข้าวงการ โดยเคยสมัครแข่งขันร้องเพลง จนประสบความสำเร็จพระอาจารย์ได้ให้ความเมตตาในด้านเมตตามหานิยมและเป็นประจำทุกปี ซึ่งที่สำนักแห่งนี้จะมีการไหว้ครู โตโน่ก็จะมาทุกปีแต่ปีนี้เนื่องจากไม่ตรงกับเวลาว่างจึงได้นัดอาจารย์เข้ามาทำพิธีครอบครูเพื่อเป็นสิริมงคลในครั้งนี้ก่อนวันจะครอบครูจริง

"สิ่งที่ผมมาก็คือต้องการมาแสดงความกตัญญูรู้คุณกับครูบาอาจารย์ ซึ่งในเรื่องของสายขมังเวทย์หรือเมตตามหานิยมผมมีความเชื่ออยู่แล้ว การที่ได้เข้ามากราบหรือมาทำพิธีจึงเป็นสิ่งที่สร้างความมงคล อีกทั้งยังได้เช็คดวงจากอาจารย์เพราะอาจารย์เป็นโหร เตือนอะไรผมก็เชื่อ" โตโน่ บอก

โตโน่ บอกอีกว่า สิ่งที่อาจารย์สอนก็เป็นเรื่องของการรักษาศีล คิดดี ทำดี พูดดี ในเรื่องนี้ตนได้พยายามทำทุกวันอยู่แล้ว และอีกเรื่องก็เรื่อง ผู้หญิง อาจารย์เตือนไม่ให้ยุ่ง ให้มุ่งงานอย่างเดียว ตนก็จะตั้งใจทำงาน ในด้านพุทธคุณในเรื่องนี้เป็นเรื่องของความเชื่อส่วนตัว ตนมีความเชื่อว่าเป็นสิ่งที่ดี ไม่ใช่เรื่องงมงายเพราะคนไทยเราก็มีเรื่องประเภทนี้มานานแล้ว เสียดายว่าไม่ได้มาพิธีใหญ่แต่ได้มากราบก่อนก็ถือว่าเป็นสิ่งที่เป็นมงคลอย่างที่สุดแล้ว